เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เครื่องใหม่ของฟินแลนด์
|
Mikko Elo นายกรัฐมนตรีจากพรรค Social Democrat ของฟินแลนด์ ตัดสินใจเมื่อปี 2002 ในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบใหม่ตัวแรกของยุโรปในรอบกว่า 10 ปี เขาทราบดีกว่าทุกคนถึงสิ่งที่ได้รับจากพลังงานนิวเคลียร์ ในสมัยของเขามีเครื่องปฏิกรณ์แล้ว 2 เครื่อง และจะสร้างใหม่อีก 1 เครื่อง ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2009
Mr Elo บอกกับเวบไซต์ BBC News ว่าทำไมเขาถึงคิดว่า พลังงานนิวเคลียร์เหมาะสมกับฟินแลนด์ เหตุผลก็เป็นเช่นเดียวกับที่อังกฤษ เร่งให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ |
|
|
Mr Elo: “พลังงานนิวเคลียร์จะให้ผลตอบแทนที่ดีทางเศรษฐกิจ” |
|
|
เราจำเป็นต้องใช้พลังงานปริมาณมากในฟินแลนด์ ประเทศเรามีอากาศหนาว อยู่ห่างไกล และมีอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานมาก เราใช้พลังงานรูปแบบที่ดีหมดทุกอย่าง ทั้งพลังงานน้ำ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ไม้ และพลังลม แต่ถ้าเราต้องการช่วยเศรษฐกิจของเรา รวมถึงสิ่งแวดล้อมด้วย คำตอบคือเราต้องใช้พลังงานนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น
ขณะนี้ เราใช้ไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ 28% ถ้าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทำงานทั้ง 5 เครื่อง จะทำให้สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 34%
เราไม่สามารถรักษาข้อตกลงใน Kyoto Protocol ได้ ถ้าไม่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ |
เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 เครื่อง ที่ Olkiluoto ของฟินแลนด์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2009
|
|
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
Kyoto Protocol ทำให้ฟินแลนด์ต้องลงทุนสูงมาก เราต้องทำให้โรงงานสะอาด ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
เราไม่สามารถทำตาม Kyoto Protocol ได้โดยไม่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ช่วย เพราะพลังงานนิวเคลียร์เป็นพลังงานที่สะอาดมากรูปแบบหนึ่ง นอกจากนั้นพลังงานนิวเคลียร์ยังให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจกับประเทศของเรา ซึ่งแตกต่างจากพลังงานชนิดอื่น อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ไม่ต้องการการอุดหนุนจากรัฐ หมายความว่าประชาชนไม่ต้องจ่ายเงินเป็นภาษีในเรื่องนี้ |
อุตสาหกรรมนี้จะทำให้มีการจ้างงานจำนวนมาก ปัจจุบัน เรามีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เครื่อง มีคนจำนวนน้อยมากที่ต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์ และจะน้อยลงไปอีกเมื่ออุตสาหกรรมนี้ทำให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่จะใช้คนงานจำนวนมากในการก่อสร้าง และเมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะมีคนทำงาน 300 – 400 คนในแต่ละโรง
พลังงานนิวเคลียร์มีปัญหาหลายอย่าที่เราต้องทำความเข้าใจ ประเด็นหนึ่งคือเรื่องการจัดการกาก ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและการก่อการร้ายก็เช่นเดียวกัน |
|
สัดส่วนการใช้พลังงานผลิตไฟฟ้าของฟินแลนด์
|
|
นิวเคลียร์
|
25.1%
|
|
พลังน้ำ
|
16.9%
|
|
ถ่านหิน
|
18.2%
|
|
เชื้อเพลิงชีวภาพ
|
11.7%
|
|
ก๊าซธรรมชาติ
|
11.7%
|
|
ถ่าน peat
|
7.5%
|
|
พลังงานนำเข้า
|
5.6%
|
|
น้ำมัน
|
2.1%
|
|
เชื้อเพลิงจาก waste
|
1.2%
|
ที่มา : สถิติของฟินแลนด์ปี 2004
|
|
|
สิ่งที่น่ากลัว
เราตกลงที่จะเก็บกากรังสีทั้งหมดที่เราใช้ไป แต่จะไม่รับกากรังสีจากประเทศอื่น ผู้เชี่ยวชาญของเราบอกว่า ประเทศฟินแลนด์มีโครงสร้างหินที่ดีมาก ในการเก็บกากนิวเคลียร์ และผมเชื่อมั่นในวิศวกรของเรา เท่าที่ผมทำความเข้าใจในเรื่องนี้ เรามีความเสี่ยงน้อยมาก
เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมดของเรา มีการป้องกันอย่างเข้มงวด แต่เราไม่ถือว่าการก่อการร้ายเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่มากในฟินแลนด์ ผมทราบมาว่ามีความกลัวการก่อการร้ายมากในลอนดอน แต่ในฟินแลนด์นั้นไม่เหมือนกัน
เราไม่อาจกล่าวได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสาธารณชน แม้ว่าในสมัยของผม ประชาชน 90% เห็นด้วยกับพลังงานนิวเคลียร์ แต่ก็ไม่ได้เป็นหมดทั้งประเทศ
ในการสำรวจควาคิดเห็นทั้งประเทศ ฝ่ายต่อต้านยังเป็นเสียงส่วนใหญ่ ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับการต่อต้านของประชาชน คือการเปิดเผยให้มากที่สุด ทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดีของพลังงานนิวเคลียร์ |
ไม่มีทางเลือก
ผมสังเกตว่าในอังกฤษ นักการเมืองไม่ต้องการนำเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นมาพูดก่อนการเลือกตั้ง ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี
ในฟินแลนด์ ก่อนการเลือกตั้งเมื่อปี 1999 เมื่อมีการนำเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นมาเป็นประเด็น ทำให้เกิดคำถามไปที่ผู้สมัครทุกคน ผมเชื่อว่าความกลัวจะเกิดขึ้นถ้าเราไม่นำออกมาพูดกับประชาชน
การไปทำอยู่ด้านหลังประชาชนเป็นการไม่ดี ผมเชื่อว่าถ้ามีคนเข้าใจเรื่องพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้นจะมีคนต่ตต้านน้อยลง
ถ้ามองไปข้างหน้า ผมคิดว่าพลังงานนิวเคลียร์จะมีความสำคัญมากขึ้นและมากขึ้นไปทั่วโลก
ถ้าคุณวิตกกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโลก จะไม่มีระบบไหนที่มีราคาต่ำและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ |
|
ถอดความจาก Finland’s new reactor
เวบไซต์ www.bbc.co.uk |